โรค
alzheimer’s diseaseโรคความจำเสื่อม
ความจำเสื่อมเป็นหนึ่งในอาการของภาวะสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ คือ ภาวะที่เซลล์สมองในบริเวณต่างๆ เสื่อม จากสาเหตุต่างๆ โดยเริ่มจากส่วนหนึ่งในสมองแล้วspread rapidly, metastasize ลุกลามไปยังสมองส่วนอื่นๆ ซึ่งจะมีผลทำให้ผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับความจำ มีการเปลี่ยนแปลงในbehaviorพฤติกรรมและpersonalityบุคลิกภาพ
dementiaโรคสมองเสื่อม
สมองเสื่อม เป็นภาวะที่สมองมีการทำงานแย่ลงจนส่งผลต่อชีวิตประจำวัน ประกอบด้วยกลุ่มอาการหลายๆ อย่างรวมกัน เช่น หลงลืมง่าย คิดเงินไม่ถูก หาของไม่เจอ หลงทางในที่familiar withคุ้นเคย มีพฤติกรรมแปลกๆ เป็นต้น ข้อแตกต่างระหว่างสมองเสื่อมจาก
อัลไซเมอร์หรือสมองเสื่อมตามอายุโดยธรรมชาติ เนื่องจากไม่สามารถแยกออกได้ชัดเจนระหว่างความจำที่แย่ลงจากอายุกับความจำแย่ลงจากอัลไซเมอร์ โดยเฉพาะในระยะต้นๆ ของผู้สูงอายุเนื่องจากอาจเริ่มมีปัญหาเรื่องความจำ ซึ่งเป็นไปโดยธรรมชาติ ควรมาพบแพทย์ระบบประสาท เพื่อการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้อง
brain ischemiaโรคเส้นเลือดในสมองตีบ
โรคเส้นเลือดในสมองตีบ คือหนึ่งในภาวะของโรคหลอดเลือดสมองที่เกิดจากการขาดเลือด และออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง จากการสะสมไขมันบริเวณหลอดเลือดสมอง ผนังหลอดเลือดจึงมีความหนาขึ้น ทำให้การไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงสมองเกิดความผิดปกติ เซลล์สมองบริเวณนั้นจึงเกิดความเสียหาย ส่งผลให้อวัยวะในร่างกายบางส่วนไม่สามารถควบคุมได้ เป็นอันตรายถึงขั้นปากเบี้ยว สูญเสียการมองเห็น เป็นอัมพฤกษ์ และอัมพาตได้
migraineโรคปวดศีรษะไมเกรน
อาการปวดศีรษะธรรมดาเกิดจากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อรอบศีรษะและคอ เช่น ปวดศีรษะจากความเครียด แต่ถ้าปวดศีรษะบ่อยและนานมักจะมีสาเหตุมาจากระบบประสาทที่อยู่ลึกลงไป
สำหรับอาการปวดศีรษะไมเกรนต่างจากอาการปวดศีรษะธรรมดา โดยมีสาเหตุจากหลอดเลือดในสมองขยายตัวและเกี่ยวข้องกับสารเคมีในสมองด้วย โดยมีลักษณะการปวดแบบตุบๆ เป็นจังหวะ มักจะเกิดข้างเดียวของศีรษะ แต่ก็สามารถเป็นทั้งสองข้างได้ โดยอาการปวดในช่วงแรกมักมีความรุนแรงเพียงเล็กน้อย และจะค่อยๆ เพิ่มความรุนแรงขึ้น ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนแรง และไวต่อแสง เสียง หรือกลิ่นมากขึ้น
ménière’s diseaseโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เกิดขึ้นจากความผิดปกติของน้ำในหูชั้นในที่มีแรงดันของน้ำในหูมากเกินปกติ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการเวียนศีรษะ จนเหมือนกับบ้านหมุนไปด้วย บางรายอาจพบอาการคลื่นไส้ อาเจียน ไม่สามารถทรงตัวได้ รวมไปถึงปัญหาจากระบบการได้ยิน เช่น ได้ยินเสียงลดลงมีเสียงรบกวนในหู และหูอื้อ
benign paroxysmal positional vertigo (BPPV)โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด
โรคนี้เป็นสาเหตุของอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนที่พบได้บ่อยที่สุด ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่ตรวจพบได้มากในคนช่วงอายุ 40 – 70 ปี ในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ซึ่งอาการส่วนใหญ่คือ เวียนศีรษะ บ้านหมุนขณะเปลี่ยนท่าทาง เช่น ขณะล้มตัวนอน ลุกจากที่นอนตะแคงซ้ายหรือขวา แหงนหน้าหรือก้มหน้า เป็นต้น
thyroid diseaseโรคไทรอยด์
ไทรอยด์ คือ โรคที่เกิดจากความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ โดยต่อมไทรอยด์เป็นต่อมไร้ท่อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน เพื่อควบคุมระบบการเผาผลาญของร่างกาย ซึ่งหากต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติ ผลิตฮอร์โมนมากเกินไปหรือต่ำเกินไป ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบการเผาผลาญของร่างกายได้ รวมถึงส่งผลต่อการกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะหัวใจและสมอง รวมถึงส่งผลต่อความแข็งแรงของผิวหนัง เล็บ และเส้นผมได้เช่นกัน
heart diseaseโรคหัวใจ
โรคหัวใจ หมายถึง โรคต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจ โดยความผิดปกติที่เกิดขึ้นในส่วนของหัวใจที่ต่างกัน ทำให้โรคหัวใจมีอาการต่างกันไปในแต่ละชนิดดังนี้
coronary artery diseaseโรคหลอดเลือดหัวใจ
เจ็บหรือแน่นหน้าอก ร้าวไปตามกราม แขน ลำคอ เหนื่อย อ่อนเพลีย หรือหมดสติได้
arrhythmia, irregular heartbeatโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
หัวใจอาจเต้นเร็วหรือช้ากว่าผิดปกติ ใจสั่น เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก เวียนศีรษะ หรือคล้ายจะเป็นลม
myocardial infarction, heart attackโรคกล้ามเนื้อหัวใจ
เหนื่อยง่าย หายใจไม่อิ่ม มักมีอาการมากขึ้นเมื่อต้องออกแรงหนัก ๆ บวมตามแขน ขา นอนราบไม่ได้ และตื่นขึ้นมาไอในเวลากลางคืน
congenital heart diseaseโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
เป็นโรคที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อทารกอยู่ในครรภ์มารดาทารกมีอาการเหนื่อยขณะให้นม เลี้ยงไม่โต
heart valve diseaseโรคลิ้นหัวใจ
หากมีความผิดปกติของลิ้นหัวใจมาก จะมีอาการเหนื่อยง่าย และเกิดภาวะหัวใจวายหรือน้ำท่วมปอดได้
heart infectionโรคติดเชื้อบริเวณหัวใจ
เป็นไข้เรื้อรัง อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า หัวใจเต้นผิดปกติ หายใจหอบเหนื่อย ไอเรื้อรังแห้ง ๆ ขาหรือช่องท้องบวม รวมถึงมีผื่นหรือจุดขึ้นตามผิวหนัง
kidney diseaseโรคไต
โรคไต คือ ภาวะที่ไตถูกทำลายโดยเฉพาะจุดที่เป็นเนื้อไต ซึ่งส่งผลกระทบให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ไม่ว่าจะเรื่อง การรักษาสมดุลของเหลวในร่างกาย การควบคุมน้ำและแร่ธาตุต่างๆในเลือด การกำจัดของเสียออกจากเลือด การกำจัดยาและพิษออกจากร่างกาย และการหลั่งฮอร์โมนเข้าสู่กระแสเลือด เป็นต้น
cirrhosisโรคตับแข็ง
โรคตับแข็ง หมายถึง ภาวะที่ตับทำงานได้ลดลง ซึ่งเกิดจากการที่ตับมีการอักเสบแบบเรื้อรัง นานเข้าเนื้อตับที่ปกติจะเริ่มมีผังผืดเกิดขึ้น จนในที่สุดเนื้อตับที่มีผังผืดมากกว่าปกติก็จะกลายสภาพเป็นตับแข็ง สาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคตับแข็งมีหลายสาเหตุ แต่ที่พบได้บ่อยที่สุดคือ การดื่มแอลกอฮอล์ ไวรัสตับอักเสบ(ชนิดบีและซี) และภาวะไขมันเกาะตับ
alcoholismโรคพิษสุราเรื้อรัง
โรคพิษสุราเรื้อรัง เกิดขึ้นในกลุ่มคนที่ดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากติดต่อกันมาเป็นระยะเวลานานจนไม่สามารถเลิกดื่มได้ ทำให้ส่งผลเสียต่อสภาพร่างกาย หรือการทำงาน ครอบครัว และสังคมรอบข้าง และเพื่อไม่ให้สุขภาพของผู้ป่วยมีปัญหามากขึ้นไปอีก การหยุดดื่ม..ถือว่าเป็นทางแก้ปัญหาเพียงทางเดียว และที่สำคัญ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อให้แนวทางการรักษาเป็นไปอย่างถูกวิธี
urethritisโรคท่อปัสสาวะอักเสบ
โรคท่อปัสสาวะอักเสบ คือ อาการบาดเจ็บและอักเสบในบริเวณเซลล์เยื่อเมือกบุท่อปัสสาวะ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียจากการเข้าห้องน้ำ อาการข้างเคียงจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การคาสายสวนปัสสาวะ เป็นต้น ถือเป็นโรคที่สามารถพบได้บ่อยเพราะเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศและทุกวัย โดยช่วงวัยที่พบปัญหาท่อปัสสาวะอักเสบมากที่สุดจะเป็นช่วยวัยเจริญพันธุ์ประมาณ 20-35 ปีขึ้นไป
hemorrhoidsโรคริดสีดวง
โรคริดสีดวง หรือ โรคริดสีดวงทวารหนัก คือภาวะที่เบาะรอง (anal cushion) ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่ช่วยในการขยายตัวของทวารหนักเวลาขับถ่ายและช่วยให้รูทวารหนักปิดสนิทในภาวะปกตินั้น มีการเคลื่อนตัวห้อยลงมาต่ำกว่าตำแหน่งปกติ และมีการโป่งพองไม่ยุบลงเมื่อขับถ่ายอุจจาระเสร็จ จนทำให้มีเลือดออกเมื่อถ่ายอุจจาระหรือมีก้อนยื่นที่ปากทวารหนัก
gastritis, stomach inflammationโรคกระเพาะ
โรคกระเพาะ หรือ โรคกระเพาะอาหารอักเสบ เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบ บวม แดง ของเยื่อเมือกบุภายในกระเพาะอาหาร เป็นโรคที่พบได้ในทุกอายุ ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ และพบทั้งในผู้หญิงและในผู้ชายสามารถเกิดขึ้นได้แบบเฉียบพลันในเวลาอันรวดเร็ว เป็นระยะสั้นๆ และภายใน1-2สัปดาห์ หรือมีอาการบ่อยครั้งเป็นเวลานานจนเกิดการอักเสบเรื้อรังเกิดแผลและเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคทางกระเพาะอาหารได้
diabetesโรคเบาหวาน
โรคเบาหวาน หมายถึง โรคที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินกว่าปกติอย่างต่อเนื่องและเรื้อรัง เกิดจากความผิดปกติของตับอ่อนหลั่งฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยกว่าปกติ หรือเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้อินซูลินออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่
anemiaโรคโลหิตจาง
โลหิตจาง หรือ เลือดจาง (anemia) หรือภาวะซีด เป็นภาวะที่มีปริมาณเม็ดเลือดแดงในเลือดน้อยกว่าปกติ ทำให้ผลิตออกซิเจนได้น้อยกว่าปกติ ส่งผลให้ร่างกายมีอาการผิดปกติ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ภาวะนี้พบได้บ่อยในบุคคลทั่วไป โดยอาการแสดงอาจมากหรือน้อยแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับเม็ดเลือดแดงในร่างกายและความสามารถในการปรับตัวต่อภาวะโลหิตจางของแต่ละคน
osteoporosisโรคกระดูกพรุน
โรคกระดูกพรุน คือ โรคที่ความหนาแน่นและมวลของกระดูกลดน้อยลงจนทำให้กระดูกเสื่อม เปราะบาง ผิดรูป และมีโอกาสแตกหักได้ง่าย ในผู้ป่วยบางรายกระดูกพรุนมีผลให้ส่วนสูงลดลง เนื่องจากมวลกระดูกผุกร่อน ผลจากโรคกระดูกพรุนคือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหัก เนื่องจากกระดูกสามารถรับน้ำหนัก แรงกระแทก หรือแรงกดได้ลดลง
cancerโรคมะเร็ง
โรคมะเร็ง พบได้ในทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่จะพบในอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ส่วนในวัยเด็กพบน้อยกว่าในผู้ใหญ่ประมาณ 10เท่า
โรคมะเร็ง เกิดจากการมีเซลล์ผิดปกติในร่างกายและเซลล์เหล่านี้มีการเจริญเติบโตรวดเร็วเกินปกติ ร่างกายควบคุมไม่ได้ เซลล์เหล่านี้จึงเจริญลุกลามและแพร่กระจายทั่วร่างกาย ส่งผลให้เซลล์ปกติของเนื้อเยื่อ อวัยวะต่างๆล้มเหลว ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ เป็นสาเหตุให้เสียชีวิตในที่สุด ได้แก่ ปอด ตับ สมอง ไต กระดูก ไขกระดูก ปากมดลูก เป็นต้น
depressionโรคซึมเศร้า
โรคซึมเศร้า เป็นอาการผิดปกติของอารมณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยทั้งด้านความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรม โรคซึมเศร้าเป็นภาวะอารมณ์เศร้าหมองที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความรู้สึกเฉยชา ไม่สนใจสิ่งต่าง ๆ ส่งผลต่อความสามารถในการทำงานในแต่ละวัน ซึ่งก่อให้เกิดอาการทางจิตได้มากมาย การดำเนินชีวิตตามปกติอาจทำได้อย่างยากลำบากหรือรู้สึกว่าชีวิตไม่มีค่า ภาวะซึมเศร้าไม่ใช่ความรู้สึกไม่สบายกายหรือไม่สบายใจที่สามารถสลัดออกไปได้ง่าย ๆ ผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้าควรได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องและยาวนานซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยถอดใจ การรักษา เช่น การทานยาหรือจิตบำบัด หรือทั้งสองอย่าง สามารถช่วยผู้ป่วยส่วนใหญ่ให้กลับมามีอาการที่ดีขึ้น
obsessive compulsive disorderโรคย้ำคิดย้ำทำ
โรคย้ำคิดย้ำทำ OCD เป็นโรคของคนที่มีความกังวล และความไม่มั่นใจต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เป็นผลให้ต้องทำกิจกรรมนั้น ๆ ซ้ำไปซ้ำมา เช่น การปิดไฟห้องน้ำ หรือการล้างมือบ่อย ๆ เป็นต้น โดยผู้ป่วยจะไม่สามารถหักห้ามใจไม่ให้ทำได้ เมื่อทำแล้วจะทำให้รู้สึกคลายความกังวล ก่อนที่จะเริ่มกังวลใหม่อีกครั้ง
bipolar diseaseโรคไบโพลาร์
โรคไบโพลาร์ หรือโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว เป็นโรคที่มีความผิดปกติทางอารมณ์สองแบบเปลี่ยนแปลงไปมาสลับกัน คือ อารมณ์ดีหรือก้าวร้าวผิดปกติ (mania) และอารมณ์ซึมเศร้าผิดปกติ (depressed) โรคนี้จึงมีชื่อเดิมว่า manic-depressive disorder โรคไบโพลาร์พบได้ราวร้อยละ 2-5 ของประชากรทั่วไป
parkinson’s diseaseโรคพาร์กินสัน
โรคพาร์กินสัน คือ โรคที่เกิดจากความเสื่อมของบริเวณสมองส่วนกลางและระบบประสาท เป็นโรคที่พบได้บ่อยรองจากโรคอัลไซเมอร์ มักพบในผู้ป่วยที่มีอายุเกิน 65 ปี ซึ่งสาเหตุของโรคพาร์กินสันนั้นไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด โรคพาร์กินสันเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้แต่รักษาให้อาการบรรเทาลงหรือไม่ลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ผู้ป่วยควรพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆที่เริ่มมีอาการ อาการเด่นชัดคือ สั่น เกร็ง และเคลื่อนไหวช้า
gastroesophageal reflux disease (acid reflux)โรคกรดไหลย้อน
โรคกรดไหลย้อน หมายถึง ภาวะที่เกิดจากสิ่งที่ย้อนจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปยังหลอดอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกรดในกระเพาะอาหาร หรืออาจเกิดจากด่าง หรือเป็นแก๊สก็เป็นได้ โดยอาจมีหรือไม่มีอาการของหลอดอาหารอักเสบ โรคหรือภาวะนี้ไม่ใช่โรคแปลกใหม่สำหรับคนไทย เป็นโรคที่พบมานานแล้ว และมีผู้ป่วยโรคนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
rabiesโรคพิษสุนัขบ้า
โรคพิษสุนัขบ้าหรือโรคกลัวน้ำเป็นโรคติดเชื้อในระบบประสาทจากสัตว์สู่คน มีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต ผู้ที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าจะเสียชีวิตเกือบทุกราย เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มียาที่ใช้ในการรักษา แต่ทั้งนี้โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน
insomnia โรคนอนไม่หลับ
โรคนอนไม่หลับเป็นปัญหาที่พบได้ทุกวัย ทุกอายุ เกิดขึ้นได้บ่อยตามข้อมูลการศึกษาพบได้ถึง ร้อยละ30-35 ของผู้ใหญ่ พบภาวะดังกล่าวได้บ่อยในวัยผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีปัญหาเจ็บป่วยทางร่างกายหรือจิตใจ ผู้ป่วยจะมีปัญหานอนไม่หลับทั้งๆที่มีโอกาสเพียงพอสำหรับการนอน ผลของการนอนไม่หลับทำให้ร่างกายเกิดความอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ จิตใจเกิดความกังวลหรือมีผลต่อการคิดการตัดสินใจ และการทำงานในช่วงกลางวัน
vertigoโรคบ้านหมุน
อาการเวียนศีรษะแบบรู้สึกหมุน หรือที่นิยมเรียกกันว่าอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน (vertigo) เป็นอาการเวียนศีรษะประเภทหนึ่งที่มักเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวหรือสิ่งของที่มองเห็นหมุนไป หรือรู้สึกว่าตัวเองหมุนไปทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วตนเองอยู่กับที่และไม่มีการเคลื่อนไหว ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยเสียสมดุลการทรงตัวและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
epilepsyโรคลมชัก หรือ grand mal seizureลมบ้าหมู
โรคลมชักที่ใครหลายๆ คนมักเรียกว่า ลมบ้าหมูนั้น เป็นอาการที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์สมองนั้นเอง เมื่อกระแสไฟฟ้าในสมองเกิดลัดวงจรขึ้น ก็จะส่งผลให้ระบบประสาทเกิดความผิดปกติจนไม่สามารถควบคุมตนเองได้ หรือเกิดอาการชักซ้ำๆนั่นเอง
trichotillomaniaโรคดึงผมตัวเอง
โรคดึงผมตนเอง หมายถึง โรคผมร่วงที่เกิดจากการดึงหรือถอนผมตนเอง โดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ โรคนี้จัดอยู่ในกลุ่มความผิดปกติทางจิตเวชแบบย้ำคิดย้ำทำ สามารถเกิดได้กับทุกบริเวณของร่างกายที่มีผมหรือขนที่ยาวในขนาดที่สามารถดึงออกได้ เช่น ผม ขนคิ้ว ขนตา หนวดเครา และหัวหน่าว เป็นต้น
goutโรคเก๊าต์
โรคเก๊าต์ เป็นหนึ่งในกลุ่มโรคข้ออักเสบที่เกิดจากการสะสมของผลึกกรดยูริกตามข้อต่างๆ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการปวด บวม แดงบริเวณข้ออย่างเฉียบพลัน โดยพบได้บ่อยในผู้ชายและผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน โรคเก๊าท์เป็นโรคที่สามารถรักษาและควบคุมไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำได้
anxietyโรควิตกกังวล
ความวิตกกังวล เป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเครียดที่มีประโยชน์ในบางสถานการณ์เพราะช่วยให้เราตื่นตัวและพร้อมรับมือกับปัญหาหรือเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามโรควิตกกังวลมีความแตกต่างจากความรู้สึกวิตกกังวลทั่วๆไป คนที่เป็นโรควิตกกังวลจะรู้สึกวิตกกังวลและกลัวอย่างเกินเหตุ จนมีผลทางลบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
atopic dermatitis, eczemaโรคผิวหนัง
ความผิดปกติของโรคผิวหนัง คือ อาจจะมาด้วยผื่นตุ่ม แดง กับบริเวณต่างๆ ของร่างกายมีมากมายหลายชนิด อย่างเช่น ใบหน้า แขน ขาด้านนอก หรือบริเวณที่มีการเสียดสี และเมื่ออายุมากขึ้นก็อาจจะมีตื่นขึ้นบริเวณต้นคอด้านหลังข้อพับแขนหรือข้อพับขา เป็นต้น โดยโรคผิวหนังมีมากมายหลายชนิด เช่น กลาก เกลื้อน ด่างขาว เป็นต้น
pneumoniaโรคปอดบวม
ปอดอักเสบ
โรคปอดบวม ปอดอักเสบ คือ ภาวะติดเชื้อในปอด ซึ่งอาจจะเป็นข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ ทั้งนี้ เนื่องจากในถุงลมปอดอาจมีของเหลวหรือหนองคั่งสะสม มีเสมหะสีเขียวเหลือง มีไข้หนาวสั่น และหายใจลำบากร่วมด้วย
allergiesโรคภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้ มีทั้งชนิดที่รักษาให้หายขาดได้ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติ กับชนิดที่รักษาให้อาการลดลงได้ แต่ยังจะเป็นแบบเรื้อรัง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับยาควบคุมอาการอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่กระตุ้นให้เกิดอาการ เพราะบางกลุ่มโรคภูมิแพ้มีความอันตรายที่สามารถนำไปสู่ภาวะการทำงานที่ผิดปกติอย่างรุนแรงของระบบต่างๆ และเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตได้
chicken pox, varicellaโรคอีสุกอีใส
โรคอีสุกอีใส คือเกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า ไวรัสวาริเซลลา (Varicella Virus) หรือ Human Herpes Virus Type 3 เป็นเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิด งูสวัด
อาการ 2 ลักษณะสำคัญของโรค
เด็กที่เป็นจะมีไข้ต่ำ อ่อนเพลียและเบื่ออาหาร ส่วนผู้ใหญ่มักจะมีไข้สูง มีอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวคล้ายไข้หวัด อาจจะมีไข้หรือไม่มีไข้ก็ได้
จะมีผื่นขึ้นพร้อมๆ กับวันที่เริ่มมีไข้ หรือ 1 วันหลังมีไข้ โดยในระยะแรกจะขึ้นเป็นผื่นแดงราบก่อน ต่อมาจะกลายเป็นตุ่มนูน มีน้ำใสๆ และคัน ต่อมาอีก 2-3 วันก็จะตกสะเก็ด ผื่นและตุ่มเหล่านี้จะขึ้นตามไรผมก่อนแล้วกระจายไปตามใบหน้าและลำตัว แผ่นหลัง บางคนจะมีตุ่มขึ้นในช่องปากทำให้ปากและลิ้นเปื่อย จะเกิดอาการเจ็บคอ ระยะเวลาของโรค จากเริ่มมีตุ่มจนเป็นสะเก็ด ประมาณ 6-7 วัน
shingles, herpes zosterโรคงูสวัด
โรคงูสวัดเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับโรคอีสุกอีใส คือ varicella zoster virus เชื่อว่าเมื่อหายจากโรคแล้วเชื้อจะค่อยๆ เคลื่อนตัวตามแนวเส้นประสาทเข้าไปซ่อนอยู่ในปมประสาทของร่างกายโดยไม่ทำให้เกิดอาการผิดปกติใดๆ แต่เมื่อใดที่ร่างกายมีภูมิต้านทานลดลงไม่ว่าจะจากวัยที่เพิ่มขึ้น หรือจากปัจจัยอื่นๆ เช่น เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต โรคที่เกิดจากภูมิต้านทานอย่างโรคHIV โรคSLE หรือได้รับยากดภูมิต้านทาน เชื้อไวรัสก็สามารถกำเริบและก่อให้เกิดโรคงูสวัดขึ้นมาได้
autoimmune diseaseโรคแพ้ภูมิตัวเอง
โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) เป็นโรคร้ายที่ยังไม่สามารถหาสาเหตุได้ แต่มีข้อบ่งชี้แสดงอาการป่วยในหลายๆ อวัยวะร่วมกันโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน หรืออาจจะต่างช่วงเวลากันก็ได้ มีอาการเป็นๆหายๆ แล้วแต่อาการ แล้วแต่ระยะของโรค
acquired immunodeficiency syndromeโรคเอดส์
โรคเอดส์ — human immunodeficiency virus (HIV) — คือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี โดยโรคเอดส์จะเกิดขึ้นหลังจากที่ร่างกายได้รับเชื้อเอชไอวีโดยเฉลี่ยเป็นเวลา 8-10 ปี ทำให้ภูมิคุ้มกันเม็ดเลือดขาวในร่างกายลดลง จนในที่สุดร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกันเพียงพอในการป้องกันร่างกายจากเชื้อโรคภายนอก ทำให้เกิดโรคติดเชื้ออื่น ๆ แทรกซ้อน อาทิเช่น วัณโรค ปวดบวม เป็นต้น
tuberculosisโรควัณโรค
วัณโรค tuberculosis (TB) เป็นโรคติดต่อทางการหายใจ เชื้อจะแพร่จากผู้ป่วยวัณโรคปอดไปสู่บุคคลอื่นทางละอองเสมหะขนาดเล็ก ซึ่งอาจจะเกิดจากการไอ จาม หรือพูด ซึ่งละอองเสมหะเหล่านี้ สามารถมีชีวิตลอยอยู่ในอากาศหลายชั่วโมง และเมื่อมีผู้สูดเข้าไปจะเข้าไปจนถึงถุงลมปอด และเกิดการอักเสบได้
hand, foot, and mouth disease (HFMD)โรคมือ เท้า ปาก
โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็กเล็กโดยเฉพาะช่วงหน้าฝน เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโร Enterovirus 71 (EV71) Coxasackie Virus ส่งผลให้มีอาการเป็นไข้ เป็นแผลในปาก มีตุ่มน้ำใสตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า และลำตัว ถือได้ว่าเป็นโรคที่สร้างความกังวลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่อยู่ไม่น้อย
monkey poxโรคฝีดาษลิง
ฝีดาษลิง เป็นโรคที่มีการติดเชื้อจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม หรือสัตว์แทะ ซึ่งจะเกิดจากที่มนุษย์ได้มีการสัมผัสกับสัตว์อย่างใกล้ชิด เลยทำให้มีการติดต่อโรคฝีดาษจากสัตว์โดยตรง นอกจากนี้อาการฝีดาษในมนุษย์ เมื่อ 50-60 ปีที่เเล้ว จะมีลักษณะของผื่นที่เริ่มจากจุดแดง ๆกลม ๆ หลังกลายนั้นจะกลายเป็นจะเป็นตุ่มใส และกลายเป็นเป็นตุ่มหนอง โดยมักจะเกิดเป็นตุ่มตามใบหน้า ลำตัว เเขน และขา
hemorrhagic fever, dengue feverโรคไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออก เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (dengue virus) โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค มักพบในประเทศเขตร้อนและระบาดในช่วงฤดูฝนของทุกปี อาการของโรคไข้เลือดออกมีตั้งแต่ไม่มีอาการผิดปกติไปจนถึงเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
influenzaโรคไข้หวัดใหญ่
โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่มีการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ พบบ่อยในฤดูฝน (มิถุนายน-ตุลาคม) และฤดูหนาว (มกราคม-มีนาคม) ของทุกปี อาการของโรคจะมีตั้งแต่อาการเล็กน้อยไปจนถึงอาการที่รุนแรงและเสียชีวิตได้
ไข้หวัดใหญ่ และไข้หวัดธรรมดาเกิดจากเชื้อไวรัสต่างชนิดกัน และมีความรุนแรงแตกต่างกัน โดยไข้หวัดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza virus) ส่วนไข้หวัดธรรมดานั้นเกิดจากการเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆ เช่น rhinovirus, adenovirus เป็นต้น โดยไข้หวัดใหญ่มักจะมีอาการรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้